รีวิว: ตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

7:49:00 PM
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การตรวจสุขภาพประจำปีที่ ร.พ.มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นะคะ (ย้ำว่าไม่ใช่ ร.พ.แม่ฟ้าหลวง อันนั้นคนละที่กันค่ะ)

เกริ่นก่อนว่า ปกติเราทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ นานๆ ทีจะได้กลับบ้านมาเยี่ยมพ่อแม่ ด้วยความที่อยากประหยัดเวลาเดินทาง เลยเลือกมาตรวจร่างกายที่เชียงรายแทน เพราะคิดว่าน่าจะสะดวกกว่า ประหยัดกว่า แถมยังได้คุณภาพพอๆ กับที่กทม. ซึ่งก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ 

โรงพยาบาลนี้ ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ถ้าใครอยากมา ก็ใช้ทางเข้าเดียวกันได้เลย เข้ามาถึงแล้วถามรปภ.ที่แจกบัตรหน้าม.ก็ได้ว่าไปทางไหน

เราไปถึงประมาณ 8.30 ได้ที่จอดหน้าตึกพอดี เดินเข้าไปมองทางซ้ายมือ จะเห็นประชาสัมพันธ์และที่กดบัตรคิว (กดที่ปุ่มตรวจสุขภาพ) สำหรับใครที่ยังไม่มีประวัติที่นี่ เชิญกรอกประวัติก่อนนะคะ เวลาเรียกคิวจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกรอกใหม่ พอถึงคิวก็แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามาตรวจสุขภาพ เค้าจะให้ใบเรามา ให้เราเดินต่อไปที่แผนกตรวจสุขภาพ ซึ่งอยู่ทางซ้ายอีกที ตามภาพค่ะ
ที่รับบัตรคิว (เครื่องกดบัตรทางซ้าย) และกรอกประวัติคนไข้ (เก้าอี้สีน้ำเงินทางขวา)
กรอกประวัติก่อนนะคะ
เมื่อเข้าไปถึงห้อง พยาบาลจะให้วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก แล้วถามว่าจะตรวจแพคเกจไหน (ดูได้ตามรูปนะคะ) ถ้าเราอยากจะตรวจอันไหนเพิ่มหรืออยากตัดอันไหนออก ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย ตอนจ่ายเงินเค้าจะคิดเงินตามแพคเกจ จะบวกหรือลบค่าใช้จ่ายตามที่เราเลือกค่ะ เช่น วันนั้นเราไม่สะดวกตรวจอุจจาระก็บอกเค้าไป เค้าก็ไม่คิดเงินในส่วนนั้น อ่อ.. สำหรับผู้หญิงที่อยากตรวจภายใน ขอเตือนว่าต้องไปหลังจากประจำเดือนหมด 7-10 วันนะคะ (เราอดตรวจ เพราะเพิ่งหมดไป 5 วันค่ะ)
เลือกแพคเกจตรวจ วัดความดัน ห้องนี้เลย
แผ่นพับเลือกแพคเกจ
อายุน้อยกว่า 35 ปี
ชาย 35-55 ปี
หญิง 35-55 ปี
ชาย หญิง 55 ปีขึ้นไป
ตวรจเพิ่มเติม
เริ่มการตรวจด้วยการเจาะเลือด ขอชื่นชมว่าบุรุษพยาบาลที่เราเจอ มือเบามากกกกกก ประทับใจจนต้องชม แม้เค้าจะเตือนว่าเจ็บหน่อยนะครับ แต่ไม่เจ็บเลยค่ะ นิดเดียวจริงๆ ขอให้ทุกคนเจอคนนี้ละกัน ฮ่าๆๆ
ห้องเจาะเลือด
เจาะเลือดเสร็จ พยาบาลจะให้ขวดพลาสติกไปเก็บปัสสาวะและอุจจาระ จากนั้นให้ไปเอ็กซเรย์ปอด ตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจภายใน ฯลฯ (ตามโปรแกรมที่แต่ละคนเลือก) เสร็จแล้วต้องรอสักครู่เพื่อให้หมอมาบอกผลค่ะ
เสื้อผ้าให้เปลี่ยน สะอาดสะอ้าน
ห้อง X-Ray ปอด
ระหว่างรอ ใครหิวให้เดินไปที่ห้องอาหารใกล้ๆ ได้ เนื่องจากเจาะเลือดเสร็จแล้ว (ต้องอดข้าวอดน้ำก่อนมาตรวจ 8 ชม. นะคะ) หรือใครไม่หิวมาก ทางโรงพยาบาลมีห้องพักรับรองให้คนที่มาตรวจสุขภาพด้วย ในห้องนั้นมีกาแฟ โอวัลติน น้ำเปล่า ขนมลูกอมให้ทานด้วยนะคะ เริ่ดสุด
ห้องอาหาร
หน้าห้องพักรับรอง
ในห้องพักรับรอง
มุมกาแฟในห้องพักรับรอง มีทีวีให้ดูด้วย
พอคุณหมอมา พยาบาลจะมาตามให้กลับไปที่ห้องแรกที่มาติดต่อ รับบัตรคิวแล้วรอฟังผลจากคุณหมอ ผลทั่วไปจะได้วันนั้นเลย ส่วนผลตรวจภายในหรือบางอย่างที่ต้องใช้เวลา จะส่งตามไปที่บ้าน หรือ นัดรับเองก็ได้
รอชำระเงิน
ฟังผลเสร็จก็รอชำระเงิน เราตรวจพร้อมแม่ สองคนรวมกันราคายังไม่เท่าตรวจคนเดียวที่กทม.เลยค่ะ ระยะเวลาตรวจจนจ่ายเงิน ประมาณ 2 ชั่วโมง ถือว่าประหยัดทั้งเวลาและเงินจริงๆ บริการก็ดี ขอชื่นชมจากใจ สำหรับใครที่อยากตรวจสุขภาพลองมาทีนี่ดูนะคะ 

*หมายเหตุ* เราไปตรวจมาเมื่อเดือนตุลาคม 2561 พยาบาลบอกว่า เดี๋ยวจะมีการย้ายแผนกนี้ไปอยู่ตึกใหม่ ถ้าใครอ่านโพสแล้วอยากไปตรวจ แนะนำให้โทรไปสอบถามพิกัดให้แน่ชัดก่อนค่ะ

ขอให้ทุกคนมีสุขภาพดีกันถ้วนหน้าค่ะ :)




มุมเทป: 0.55 ลืมตามา อ่ำ (ปี 2537)

4:20:00 PM
หลายคนอาจลืมไปแล้วว่าก่อนที่พี่อ่ำจะมีภาพศิลปินร็อค จับกีต้าร์ร้องเพลงทะเล้นอารมณ์ดี พี่อ่ำแกเคยออกอัลบั้ม "0.55 ลืมตามาอ่ำ" มาก่อน

อัลบั้มชุดนี้ถือเป็นชุดแรกที่ทำให้ใครหลายคนได้รู้จักพี่อ่ำ (รวมถึงคนเขียนด้วย) จริงๆ แล้วยุคนั้นเวลามีเพลงอะไรออกมาใหม่ คนฟังจะรู้กันเกือบหมด เนื่องจากวิทยุคลื่นหลักที่ดังจริงๆ มีไม่กี่คลื่น ไหนจะรายการทีวีที่คนเขียนเรียกในใจว่ารายการเพลง ซึ่งมีออกอากาศทุกวันช่วงบ่าย พอเลิกเรียนก็มานั่งดูเพื่ออัพเดทเพลงใหม่ ใครไม่ทันดูยังมีช่วงดึกและบ่ายวันเสาร์อาทิตย์อีก

กลับมาที่พี่อ่ำ เพลงเปิดตัวของอัลบั้มชุดนี้คือ "เกิดมาทำไมไม่รู้" ซึ่งสอดรับกับชื่ออัลบั้มพอดี เท่าที่จำได้ รู้สึกจะเอามาจากเวลาเกิดของพี่อ่ำแกจริงๆ ตอนแรกที่ปล่อยเพลงนี้ออกมา ในใจยังคิดว่าเพลงเฉยจัง ดูไม่มีอะไรหวือหวา กระแสก็ค่อนข้างเงียบ เดชะบุญทางค่ายปล่อยเพลงช้าออกมาต่อ เพลงนั้นมีชื่อว่า "อย่าทำอย่างนี้กับใคร" และ "เพื่ออะไร" (จำไม่ได้ว่าโปรโมทเพลงไหนก่อนกัน ใครจำได้แวะมาบอกด้วย) สองเพลงนี้ทำให้คนเขียนเดินจ้ำออกไปซื้อเทปพี่อ่ำทันที 

ตามธรรมเนียมเมื่อซื้อเทปใหม่ เราก็นั่งอัดสื่อตัวเองไปมา แล้วพบว่าอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มโปรดอีกชุดหนึ่ง มีเพลงเร็วที่โอเค เพลงช้าจี๊ดทั้งม้วน (นอกจากเพลงช้าสองเพลงข้างบนแล้ว ยังมีเพลงที่ชื่อ "อย่าไปโกรธเขา" กับ "เพราะว่าเธอไปดี" อีก) สมัยนั้นถ้าซื้อเทปมาแล้วมีเพลงเพราะ 4 เพลงขึ้นไปถือว่าคุ้มแล้วแหละ เพราะเพลงอื่นก็ฟังได้เรื่อยๆ ตามสไตล์แกรมมี่

ใครที่มีประสบการณ์ร่วมกับเพลงชุดนี้ของพี่อ่ำหรือมีข้อมูลเพิ่มเติม เข้ามาแลกเปลี่ยนกันได้เลย ส่วนตัวชอบเพลง "เพื่ออะไร" มากที่สุดในม้วน เมโลดี้เพราะมาก สามารถนั่งทำเอ็มวีอยู่ได้เป็นวันๆ

FROST Magical Ice Of Siam เมืองน้ำแข็ง ที่เที่ยวล่าสุดในเมืองพัทยา

2:58:00 PM
มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ FROST Magical Ice Of Siam ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เปิด เลยอยากมาแชร์รูปและข้อมูลเล็กน้อยให้คนที่สนใจดูกันก่อนไปเที่ยวค่ะ
เริ่มตั้งแต่ทางเข้ากันเลย ที่นี่มีที่จอดรถมากมาย เพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยว ด้านหน้าจะมีบูธขายตั๋วอยู่
เมื่อเราซื้อตั๋วแล้ว เดินเข้าไปจะเจอกับโซนแรก คือ ป่าหิมพานต์ (The Himmapan) โซนนี้ขอบอกเลยว่าถ้าไปตอนกลางวันแสบตามากๆ ไม่ใช่อะไร ประติมากรรมทรายขาวของเค้าขาวจริงขาวจัง สะท้อนแดดสุดๆ ควรเตรียมแว่นกันแดดไปด้วย เพื่อจะได้ดูงานศิลปะเหล่านี้ได้สบายตา และที่สำคัญ ใครที่ชอบถ่ายรูปตัวเองอย่าใส่เสื้อสีขาวค่ะ เพราะเราจะแบนไปกับรูป ฮ่าๆ
เมื่อเราเดินผ่านโซนป่าหิมพานต์ขาวเวอร์มาแล้ว จะมาเจอกับไฮไลต์ของที่นี่คือ เมืองน้ำแข็ง หรือ Siam Heaven
ใครที่ไม่ได้เตรียมชุดมาไม่ต้องกลัว เค้ามีอุปกรณ์กันหนาวให้เช่า ยกเว้นถุงเท้าต้องซื้อนะคะ
เมื่อแต่งองค์ทรงเครื่องพร้อมรับอากาศหนาวกันแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่พาเข้าไปในห้องเตรียมอุณหภูมิ เป็นห้องที่หนาวพอประมาณ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวและเจ้าหน้าที่ได้อธิบายวิธีการก่อนเข้าไป
และแล้วเมื่อก้าวเข้ามาในห้องน้ำแข็งจริงๆ โอ้โห....หนาวไม่หนาวก็คิดละกันว่าเจ้าน้ำแข็งพวกนี้คงรูปอยู่ได้อะค่ะ
เจ้า Siam Heaven นี่มีโซนให้ถ่ายรูปมากมาย มีสไลเดอร์น้ำแข็งที่เล่นได้จริง มีแก้วน้ำที่ทำจากน้ำแข็ง เทน้ำลงไปก็กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง กินเสร็จแล้วเอาไปปาทิ้งได้เลยในโซนที่เค้าจัดให้
น้ำหวานในแก้วน้ำแข็ง ทานได้จริงๆ
บาร์นั่งกินน้ำ
ที่ปาแก้วที่ใช้แล้ว
น้ำแข็งรูปรถตุ๊กตุ๊ก
สไลเดอร์ที่ลื่นได้จริง
สไลเดอร์
ถือว่าในเมืองน้ำแข็งนี้มีกิจกรรมมากมายให้เราทำ ก่อนที่ร่างกายจะหนาวจนทนไม่ได้ อย่างคนเขียนนี่เข้าไป 15 นาทีก็จะไม่ไหวแล้วค่ะ 
 
FROST Magical Ice Of Siam ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าลองมาดูสักครั้ง แต่อย่าลืมพกยามาเผื่อด้วยนะคะ ไปเจอหนาวๆ แล้วออกมาเจออากาศบ้านเรา อาจจะป่วยกันได้

รายละเอียดอื่นๆ ตามไปดูในเวบไซต์ http://frostpattaya.com/th/ ได้เลยค่ะ
ที่ตั้ง: 75/6 หมู่ที่ 3 ตำบลหนองปลาไหล อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150 
เปิด: 09.00 – 23.00
ราคา: ผู้ใหญ่ 350 บาท 
เด็ก (อายุ 4-12 ปี) 250 บาท (อายุ 1-3 ขวบ) ฟรี  
ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ลด 50% (กรุณาแสดงบัตรประชาชน)

Homefresh Hydrofarm ร้านสลัดน่ารัก ดีต่อกาย ดีต่อใจ

2:44:00 PM
Homefresh Hydrofarm ร้านสลัดที่น่ารัก มุ้งมิ้ง ดีต่อกาย ดีต่อใจเป็นที่สุด 
ช่วงก่อนสงกรานต์นี้ ส่วนใหญ่ยังมีงานถาโถมมาไม่หยุด อยากไปเที่ยวต่างจังหวัดใจจะขาด แต่ดูจากสภาพงานตรงหน้ามันช่างน่าเศร้าจริงๆ ไหนๆ เราก็หนีงานไม่พ้น ก็เลยขอเลือกเติมความอิ่มท้อง อิ่มใจ กันใกล้ๆ กรุงเทพฯ แทนแล้วกัน.. สำหรับใครที่กำลังมองหาอาหารอร่อยๆ ทานกันได้ทั้งครอบครัว แต่ไม่อยากไปร้านบรรยากาศเดิมๆ อารมณ์สวนอาหารที่มีน้ำพุและบ่อปลา ขอแนะนำร้านนี้เลย "Homefresh Hydrofarm"
หน้าร้านจะพบกับฟาร์มผักสลัดสุดลูกหูลูกตา เขียวขจี ผักเหล่านี้ทางร้านไม่ได้ปลูกสวยๆ เท่านั้นนะคะ แต่นำมาใช้ทำอาหารในร้านจริงๆ ดังนั้นก็มั่นใจได้เลยว่า อาหารทุกจานมาจากผักสดๆ ปลอดสารพิษ
ภายในร้านตกแต่งในสไตล์โฮมมี่ มีกลิ่นของ English Country ผสมอยู่อย่างลงตัว มีของกระจุกกระจิก น่ารักๆ ขายอยู่ด้วย จะเห็นได้ว่าเจ้าของร้านใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในร้านจริงๆ
มาถึงเมนูอาหารกันบ้าง แม้ว่าร้านนี้จะเป็นร้านสลัด แต่เมนูเค้ามีตั้งแต่ สลัดผักสดๆ สปาเก็ตตี้ สเต็ก ไปจนถึงข้าวจานเดียวต่างๆ และยังมีเมนูน้ำและของหวานที่ช่างยั่วยวนใจซะเหลือเกิน
ออเดิร์ฟเสิร์ฟให้ทุกโต๊ะ ระหว่างรอ
วันนี้เราเลือกสั่งเมนู "ปลาหิมะซอสมะขาม" ที่เค้าบอกว่าเป็นเมนูเด็ดของร้าน มาทุกครั้ง สั่งทุกครั้ง การันตีความอร่อย สั่งเลย ไม่ต้องคิด และความจริงเมนูนี้มีให้เลือกหลายซอส เคยทานซอสครีมมะนาวก็อร่อยเหมือนกัน แต่ถ้าใครไม่ชอบเลี่ยนๆ ซอสมะขามก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวค่ะ
ปลาหิมะซอสมะขาม
เมนูถัดมาได้ฟรี ไม่ใช่เพราะเส้นแต่อย่างใด แต่เพราะสมัครบัตรสมาชิกแล้วสะสมแต้มเอาไว้จนครบ 100 แต้ม ก็เลยได้ทานฟรี ใครไปทานอย่าลืมสมัครบัตรกันด้วยนะคะ สมัครฟรี จะรออะไรอี๊กกก

เอ้า มัวแต่พูดเรื่องบัตรสมาชิก กลับเข้าเมนูค่ะ เมนูนี้ คือ "สปาเก็ตตี้ซีฟู้ดซอสเพสโต้" คือดีย์ คือหอยใหญ่มาก คืออร่อย อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูประจำที่สั่งทุกครั้งที่มา เจ้าของร้านแอบกระซิบมาว่า ซอสเพสโต้ทางร้านก็ทำเอง ทำเองตั้งแต่ปลูกใบ Italian Basil เองเลยนะคะ รับรองความสด สะอาด และคุณภาพเยี่ยม
สปาเก็ตตี้ซีฟู้ดซอสเพสโต้
อร่อย
มาถึงร้านสลัด ไม่สั่งสลัดก็เหมือนมาไม่ถึง ปกติเราจะสั่ง Homefresh Salad เพราะถือเป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดของร้านนี้ แต่วันนี้ลองทานเมนูใหม่บ้าง เลยเลือกสั่ง "Salmon Caesar Balsamic" (ชื่อประมาณนี้แหละ จำไม่ค่อยได้ แหะๆ)

อันนี้จะเป็นร็อคเก็ตสลัด ราดซอสซีซาร์ผสมกับบัลซามิก โปะด้วยแซลมอนรมควัน หน้าตาตอนมาเสิร์ฟดูเฉยๆ ธรรมดาๆ แต่พอลองกินแล้ว เฮ้ยยย อร่อยนะเนี่ย น้ำสลัด 2 รสชาติมันผสมกันอย่างลงตัว และไม่เลี่ยนเลย กินเพลินๆ คลีนๆ สวยๆ 
Salmon Caesar Balsamic
จานหลักอีกจานที่สั่งมาคือ "พอร์กช็อป" และ "การ์ลิกพอร์กช็อป" สองเมนูนี้ความจริงตัวเนื้อเหมือนกัน แต่รสชาติที่ได้ไม่เหมือนกันเลย.. มาที่อันแรกก่อน พอร์กช็อป จะเป็นเนื้อหมูติดกระดูกชิ้นโต เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วสไตล์ไทย กับซอสบาร์บีคิว จิ้มสลับกันไปมาได้สองรสชาติแบบไม่มีเบื่อ
พอร์กช็อป
จานที่สองเป็น การ์ลิก พอร์กช็อป เนื้อหมูเหมือนกันกับจานแรก แต่ต่างกันตรงที่ทางร้านจะนำไปปรุงกับกระเทียมกรอบๆ ราดซอสเกรวี่หอมๆ แค่หั่นเนื้อหมูออกมาก็ได้กลิ่นหอมกระเทียมลอยมาเลย ใครเป็นแฟนเกรวี่ต้องห้ามพลาด อันนี้เป็นเมนูใหม่ของร้านด้วย อย่าลืมไปลองกัน 
การ์ลิก พอร์กช็อป
กินคาวไม่กินหวานมันไม่ใช่ เริ่มต้นเบาๆ กันไปแล้วด้วย "สตรอว์เบอร์รี่ปั่น" และ "พีชปั่น" เย็นชื่นใจ ไม่หวานมาก กินแล้วรู้สึกสุขภาพดีขึ้นมาทันที
สตรอว์เบอร์รี่ปั่น
พีชปั่น
น้ำเปล่ายังน่ารัก
ต่อไปเป็นของจริงแล้วค่ะ "Melted Chocolate" เป็นเค้กช็อกโกแลตนำมาอบในถ้วย โปะด้วยไอศกรีมวนิลา วิปครีม และสตรอว์เบอร์รี่สด เอาไปเลย 10 10 10 คือ คือ คือ เค้กมันร้อนๆ ละลายๆใช่ปะแก แล้วแบบ กินกับไอติมเย็นๆ ตัดกับรสเปรี้ยวของสตรอว์เบอร์รี่ อยากให้ได้ลองจีงจีงงง
Melted Chocolate
เอาล่ะค่ะ อิ่มหนำสำราญกันไป ก่อนกลับก็แวะช็อปของฝากติดไม้ติดมือกันไปได้ ช่วงที่ไปเป็นปีใหม่พอดี ทางร้านเลยมีกระเช้าผักมาวางขาย และ Gift Set Everyday Whole Wheat Chips น่ารักมากๆ ร้านนี้ทำกระเช้าตามฤดูกาลตลอดใครไปช่วงไหนจะเจอรูปแบบต่างๆ กันไปค่ะ
ขอสรุปสั้นๆ สำหรับร้านนี้ อาหารอร่อยมาก ขนมดี ร้านน่ารัก บรรยากาศเลิศ อาจจะไกลหน่อย แต่รับรองว่าดีต่อกาย ดีต่อใจ คุ้มค่าการเดินทางแน่นอนค่ะ
ที่ตั้ง: ซ.รามคำแหง 167 (ตรงข้ามซอยมิสทีน) เวบไซต์: www.homefreshrestaurant.com