ร้าน Town Tree เกษตร-นวมินทร์

มารู้จักร้านอาหารย่านเกษตรนวมินทร์ หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง แฟนเดย์ และ MV เพลง อ้าว ของ อะตอม


ใครว่าร้านอาหารและคาเฟ่น่ารักๆ ต้องมีแค่ที่ทองหล่อ เอกมัย และอารีย์ วันนี้ขอแนะนำ ร้านน่ารัก สุดคิ้วท์ สุดชิค ที่รับรองว่าใครได้มาต้องติดใจทั้งอาหารและบรรยากาศอย่างแน่นอน!


ร้านนี้ว่า ชื่อ Town Tree อยู่ติดถนนประเสริฐมนูญกิจก่อนถึงโรงเรียนเลิศหล้า หลังจากที่ขับผ่านหน้าร้านอยู่หลายที เล็งแล้วเล็งอีก เห็นโหงวเฮ้งหน้าร้านประกอบกับโลโก้น่ารัก เลยคิดว่าข้างในต้องมีอะไรดีแน่ วันนี้ได้จังหวะกำลังหาที่ใหม่ๆ ในการทานอาหาร ห้างก็เบื่อ จะไปในเมืองก็เหนื่อยเกินไป เลยชวนเพื่อนๆ มาทานที่ร้านนี้กัน


เดินเข้ามาหน้าร้าน ตกแต่งได้น่ารักเหมือนสวนสไตล์อังกฤษ แต่พอเปิดประตูเข้าไป ว้าววววว สวย และโคซี่มาก ร้านตกแต่งสไตล์ไม้ๆ อบอุ่นด้วยของแนววินเทจ และต้นไม้นานาพรรณ ร้านนี้ไม่เล็กไม่ใหญ่ มีทั้งโซนในร้านและนอกร้าน และก็มีเรือนกระจกแยกสำหรับจัดงานปาร์ตี้ส่วนตัวได้อีกด้วย

ด้านในร้าน
โซนหลังร้าน

อาหารของร้านนี้จะเป็นแนวไทยฟิวชั่น มีทั้งอาหารไทยประยุกต์และอาหารฝรั่งเบาๆ แซมมานิดหน่อย พอเปิดเมนูดู ก็พูดได้เลยว่ามีอาหารให้เลือกเยอะกว่าที่คิดเยอะมาก ไล่มาตั้งแต่ไข่เจียว ยาวไปจนถึงเสต็ก เนื่องจากเรามากันเป็นครั้งแรก ก็เลยเลือกเมนูที่ทางร้านแนะนำเอาไว้ซะส่วนใหญ่เพื่อกันพลาด (แหะๆ)


เมนูแรกเลย ที่เห็นว่ายอดฮิต ได้แก่ หมูสามชั้นทอดจิ้มแจ่ว หมูสามชั้นทอดแห้งๆ ทานกับน้ำจิ้มแจ่ว ลงตัวยิ่งนัก อร่อย กรอบ ได้มาตรฐาน สำหรับเมนูนี้ คิดว่ากินคนละชิ้นก็น่าจะพอแล้ว ไม่งั้นจะเลี่ยนเกินไป แต่ถ้าใครเป็นสาวกหมูกรอบ หมูสามชั้น พลาดไม่ได้จริงๆ ค่ะ

หมูสามชั้นทอดจิ้มแจ่ว

เมนูที่สองที่เค้าบอกว่าเป็น signature ของทางร้านเลย คือ Town Tree Salad เมนูสลัดเบาๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดครีมวาซาบิ ท็อปด้วยเส้นทอดกรอบ ไข่กุ้ง และปลาหมึกชุบแป้งทอด น้ำสลัดครีมที่เหมือนจะเลี่ยน แต่ก็ไม่ เพราะมีรสของวาซาบิช่วยไว้ เป็นจานผักที่ควรสั่ง เพื่อเพิ่มไฟเบอร์ให้กับมื้ออาหารค่ะ โดยรวม อร่อย โอเค ติดแค่ว่าเครื่องน้อยไปหน่อย ยังไม่ค่อยจัดเต็มเท่าไหร่

Town Tree Salad

เมนูที่สาม คือ ลาบแซลมอน อันนี้สั่งด้วยความชอบส่วนตัวที่อยากกินอะไรแซ่บๆ แก้เลี่ยน ปรากฏว่า แม้จะไม่ได้มีดาวแปะเอาไว้ แต่เมนูอร่อยเลย เป็นลาบนี่แหละค่ะ แต่แซลมอนเป็นแซลมอนดิบ แซลมอนเน้นๆ ไม่ได้มีแต่หอมแดงมาซะเต็มจาน จานนี้อร่อย ประทับใจ เนื้อแซลมอนก็ดี รสชาติก็ถูกปาก ไม่เผ็ดจนเกินไป  ทุกคนที่ไปด้วยกันลงความเห็นว่า จานนี้อร่อยจริงๆค่ะ

ลาบแซลมอน อร่อยมากกกกกก

เมนูของคาวจานสุดท้ายที่สั่งคือ สปาเก็ตตี้เบคอนผัดพริกแห้ง  ตอนแรกภาพในหัวที่เห็นคือ เส้นสีเหลืองๆ ผัดกับกระเทียม พริกแห้ง และเบคอน แค่นั้น แต่พอมาเสิร์ฟจริง ดูแซ่บกว่าที่คิดเยอะ เข้าใจว่าทางร้านคงใส่พริกเผาลงไปผัดด้วย สีสันเลยจัดจ้าน น่าทานมาก องค์รวมรสชาติดี เบคอนไม่ใช่แบบเศษๆ มีมาเป็นชิ้นๆ โอเคเลย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบสปาเก็ตตี้แบบเลี่ยนๆ ควรสั่งมาค่ะ

สปาเก็ตตี้เบคอนผัดพริกแห้ง

โบราณเค้ากล่าวไว้ว่า "กินคาวไม่กินหวาน สันดานไพร่" ไอ้เรามันพวกชนชั้นสูง เลยต้องจัดของหวานล้างปากซักหน่อย (ข้ออ้างทั้งนั้น) หลังจากไปเกาะตู้เค้กดูแล้ว ยังไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้ามาเร็วกว่านี้จะมีให้เลือกเยอะกว่านี้มั้ย แต่ไม่เป็นไร สมาชิกทุกคนก็เลยลงความเห็นว่าจะสั่งเป็นของหวานที่เค้าทำให้ใหม่แทน ซึ่งก็มีให้เลือกแค่ Toast แบบต่างๆ ประมาณ 5 แบบ และ Chocolate Lava และด้วยความที่รักพี่เสียดายน้อง เราก็เลยเลือกสั่งมาทั้งคู่เลยค่ะ

เมนูแรก คือ Chocolate Toast with Strawberry เมนูนี้เสิร์ฟคู่กับกล้วยหอมและสตรอว์เบอร์รี่ตามชื่อเลย ตัวขนมปังจะมีรสเนยและน้ำผึ้งอยู่แล้ว ราดด้วยซอสช็อกโกแลต และโปะตามด้วยไอศกรีมวนิลลา แนะนำว่า อย่าราดน้ำผึ้งที่เสิร์ฟมาคู่กัน เพราะส่วนตัวคิดว่า เท่านี้ก็อร่อยกำลังดีแล้ว  เมนูนี้ถือว่าทำได้ดี ไม่หวานมาก ไม่เลี่ยนเนยเกินไป ยิ่งแย่งกันกิน ยิ่งอร่อยสุดๆ

Chocolate Toast with Strawberry
ต่อด้วยเมนูที่สอง คือ Chocolate Lava ถือเป็นเมนูที่เห็นที่ร้านไหน ต้องขอสั่งให้ได้ เสิร์ฟมาก็หน้าตามาตรฐาน ตามแบบฉบับลาวาทั่วไป ไอศกรีมที่มาคู่กันเป็นรสช็อกโกแลตชิพ อันนี้ตอนกินไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่พอเข้าปากเท่านั้นแหละ อื้อหืออออ อร่อย! เมนูนี้ถือว่าประทับใจมาก ช็อคโกแลตไม่หวานเกินไป ขมกำลังดี กินคู่กับไอศกรีมที่เสิร์ฟมายิ่งลงตัวสุดๆ เรียกได้ว่า มื้อนี้ประทับใจ ทั้งอาหารและบรรยากาศร้าน คิดว่าจะกลับมาชิมเมนูอื่นๆ พร้อมแต่งตัวสวยๆ มาถ่ายรูปอย่างแน่นอน (เนื่องจากวันนี้ไปแบบหน้าสด เลยอดถ่ายรูปสต็อกเก็บไว้เลย)


สุดท้าย เรื่อง ที่จอดรถ มี 2 ที่ คือ หลังร้าน กับ ในซอยก่อนถึงโรงเรียนเลิศหล้า แต่อยากให้เข้าไปจอดกันที่หลังร้านมากกว่า เพราะสะดวกสบาย ปลอดภัย ใกล้ร้านด้วย ทางเข้าก็ตามนี้เลยค่ะ (ป.ล. ส่วนนี้ edit เพิ่มนะคะ เพราะทางร้านมาอ่านบล็อคแล้วเห็นว่าหาที่จอดรถไม่เจอ เลยส่งข้อมูลมาให้ค่ะ น่ารักจริงๆ)
เข้าซอยก่อนถึงร้าน หน้าตาเป็นแบบนี้ จำง่ายๆ คือ ซอยเอเชียรีสอร์ท
ขับไปประมาณ 30 เมตร จะเห็นกำแพงร้านด้านขวา
เลี้ยวเข้าไปจะมีที่จอดรถ จอดได้หลายคันเลยค่ะ
เอาล่ะ เสาร์อาทิตย์หน้าใครว่างๆก็ลองไปกิน ไปชิม ไปถ่ายรูปกันได้ที่ร้าน Town Tree นะจ๊ะ รายละเอียดอื่นๆ ลองตามเข้าไปดูใน Facebook ของร้านได้เลย

Post Comments